การรักษาฝ้านั้นต้องใช้ความอดทนและมีวินัยสูง

ฝ้า เป็นความผิดปกติที่พบได้บ่อย ซึ่งไม่ได้มีมาแต่กำเนิด โดยมีลักษณะเป็นปื้นหรือแผ่นสีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม พบมากที่สุดบนใบหน้า และพบมากในผู้หญิงถึง 90% โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยกลางคนอายุประมาณ 30-40 ปี ฝ้ามีลักษณะเป็นปื้นสีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม อาจมีสีดำ สีเทา สีน้ำตาลอมเทาหรือสีม่วงอมน้ำเงิน ขึ้นกับชนิดของฝ้า ตำแหน่งที่พบฝ้าได้บ่อย คือ บริเวณใบหน้าที่มีโอกาสสัมผัสกับแสงแดดมากๆ เช่น โหนกแก้ม หน้า ผาก จมูก เหนือคิ้ว และบริเวณเหนือริมฝีปาก

การรักษาฝ้าด้วยยาทา มักได้ผลดีในฝ้าตื้นมากกว่าฝ้าลึก ในฝ้าตื้นอาจเห็นผลจากยาทาใน 2 เดือน โดยสีของฝ้านั้นจะจางลง ถ้าผู้ป่วยมีการใช้ยาอย่างต่อเนื่องถึง 6 เดือน จะเห็นผลชัดเจนขึ้น ส่วนฝ้าลึกนั้น รักษาค่อนข้างยากด้วยยาทาเพียงลำพัง การดูแล ป้องกัน และรักษาฝ้านั้นต้องใช้ความอดทนและมีวินัยสูง การรักษาควรเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และผู้ป่วยควรตระหนักอยู่เสมอถึงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดฝ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสงแดดซึ่งต้องทำการหลีกเลี่ยงอย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด เพื่อการไม่เกิดขึ้นของฝ้า เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของการรักษาฝ้า

การรักษาฝ้ามี 4 ชนิดคือ
1.ฝ้าแบบตื้น จะอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า(ผิวหนังชั้นนอก) มักมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลขอบชัด เกิดได้ง่าย และสามารถรักษาให้หายได้เร็ว นอกจากนี้ ฝ้าชนิดนี้ยังรักษาได้โดยการใช้ ยาทาฝ้าอ่อนๆ และ ยาทากันแดด ก็สามารถลบเลือนฝ้าให้ดีขึ้นได้

2.ฝ้าแบบลึก จะมีเม็ดสีเมลานินสีน้ำตาลดำ จำนวนมากกว่าปกติ อยู่ในชั้นที่ลึกกว่าฝ้าแบบตื้น โดยจะเกิดฝ้าในระดับที่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า จะเกิดความผิดปกติในระดับชั้นผิวหนังแท้ มีลักษณะเป็นสีน้ำตาล น้ำตาลเข้มถึงดำ ขอบเขตไม่ชัด รักษาได้ยากกว่าฝ้าชนิดตื้น และไม่ค่อยหายขาด การใช้ยาทาฝ้าอ่อนๆ และยาทากันแดด เพียงแต่ช่วยให้ดีขึ้นเท่านั้น การจะรักษาฝ้าลึกให้ดีขึ้นได้ ต้องใช้เลเซอร์ที่สามารถลงลึกเข้าไปในชั้นผิวหนังด้านใน โดยไม่ทำลายผิวชั้นนอก

3.ฝ้าผสม คือฝ้าที่มีเม็ดสีเมลานิน อยู่ที่ผิวหนังชั้นบน(Epidermis) และอยู่ในผิวหนังชั้นใน(Dermis) หลังทายาฝ้าจะพบว่าเงาฝ้าบางส่วนจางลง แต่ฝ้าที่อยู่ลึกๆจะไม่ค่อยได้ผล สำหรับเม็ดสีฝ้า(Melanin) ที่อยู่ลึกๆต้องใช้เลเซอร์ที่สามารถลงได้ลึกถึงผิวหนังชั้นในโดยไม่ทำอันตรายต่อผิวชั้นบน ตัวเลเซอร์ที่ได้ผลคือ Fractional Nd Yag(เช่น DHL, DFHL Laser) PTP Mode Nd Yag ล่าสุดเทคโนโลยีที่ทำลายเม็ดสีได้ละเอียดสูงโดยไม่เกิดความร้อน ไม่ทำลายผิว ก็คือ Picosecond , Picosure Laser